ทำความรู้จัก RIOT Blockchain หุ้นเทคฯสายขุด Bitcoin ขึ้น 148 เด้งใน 1 ปี ปีนี้เทคโอเวอร์เหมือง Bitcoin กำลังการขุด Bitcoin จะโตเกิน 280%

Last Updated on 20/04/2021

ส่วนหนึ่งที่ผมออกมาเล่นหุ้นต่างประเทศก็เพราะชอบศึกษาธุรกิจเทคโนโลยีอยู่แล้ว อีกส่วนหนึ่งก็เพราะพอขึ้นชื่อว่าเป็นธุรกิจเทคโนโลยี นั่นหมายความว่าส่วนใหญ่แล้วมักจะเติบโตได้อย่างรวดเร็ว (Highly scalable) และมีค่าใช้จ่ายหรือเงินลงทุนที่ต้องลงทุนเพิ่มเติมน้อยมากๆ (Low marginal cost) ทำให้กำไรโตแรง

พอโตถึงจุดๆหนึ่ง หรือมีจุดเปลี่ยนอะไรเกิดขึ้น หุ้นมักจะขึ้นแรงโคตรๆ

หนึ่งในบริษัทที่ผมว่าน่าศึกษาคือหุ้น RIOT หรือบริษัท RIOT Blockchain ซึ่งปีที่แล้วขึ้นมาจากจุดต่ำสุดตอน COVID ถึง 148 เด้ง ถ้านับเป็น 1 Year Return ไม่นับเอาราคาต่ำสุด ก็ยังขึ้นถึง 40 กว่าเด้ง

เงิน 1 ล้านถ้าลงทุนได้จุดต่ำสุดจะกลายเป็น 148 ล้านในปีเดียว (555 แต่คงมีน้อยคนที่จะได้จุดต่ำสุด)

แต่ถ้าไม่ได้จุดต่ำสุด 1 ล้านก็ยังเป็น 40 ล้านอยู่ดี ภายใน 1 ปี ถือว่าเป็นผลตอลแทนที่โหดมากๆ

RIOTทำธุรกิจอะไร

เมื่อก่อน RIOT ทำธุรกิจ Biotechnology ชื่อ Bioptix แต่ Pivot ตนเองมาทำธุรกิจ Blockchain ในปี 2017 ปีช่วงเดือนตุลาคม เปลี่ยนชื่อเป็น RIOT ตอนนั้นหุ้นวิ่งมารอแล้วจาก 4 เหรียญไป 8 เหรียญ กำไรไปแล้ว 1 เด้ง หลังจากนั้นวิ่งขึ้นไปพีคที่ 40 เหรียญใน 3 เดือน

หลังจากนั้น RIOT ได้เข้าสู่ธุรกิจ Blockchain หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นการทำ Crypto Exchange (อารมณ์คล้ายๆ Coinbase ตอนนี้) ชื่อ RiotX

นอกจากนั้นยังมีธุรกิจเหมืองขุดเหรียญต่างๆเช่น Bitcoin, Bitcoin Cash และ Litecoin (Dogecoin ไม่มีนะครับ 555)

หลังจากนั้นหุ้นตกลงหนักขึ้นเรื่อยๆ ผมเดาว่าเป็นเพราะการแข่งขันของธุรกิจ Crypto Exchange สูงขึ้น ผนวกกับตอนนั้นราคา Bitcoin กลายเป็นขาลงอย่างหนัก พวกธุรกิจขุด Bitcoin ก็โดนผลกระทบไปด้วย

วิธีการทำรายได้ของ RIOT คือทำยังไงก็ได้ให้ขุด Bitcoin แล้วมีต้นทุนต่ำกว่าราคาตลาด พอมาขายที่ราคาตลาดก็ทำกำไรได้

ต้นทุนหลักของการขุด Bitcoin คือค่าเครื่องขุด (Miner) ค่าไฟ ซึ่งมันไม่ได้ลดลงตามราคาของ Bitcoin

EPS ช่วงนั้นก็ประมาณนี้

• ปี 2017 -2.71
• ปี 2018 4.34
• ปี 2019 -1.06

ราคาหุ้นกลับมาอยู่ที่แถวๆ 1.50 เหรียญ จากที่เคยอยู่ 40 เหรียญเมื่อ 1 ปีก่อน ( ปีเดียวพี่แกลงไปเกิน 90%) ใครถือหุ้นตัวนี้อยู่ในราคาสูงๆไม่เรียกถอดใจก็ไม่รู้จะเรียกอะไรแล้ว

ทีนี้อยู่ดีๆในช่วงต้นปี 2020 บริษัทประกาศเลิกธุรกิจ Crypto Exchange และหันมาเอาดีด้านธุรกิจขุด Crypto เพียงอย่างเดียว

ประกาศลงทุนซื้อเครื่องขุดจากที่มีอยู่ 3000 เครื่อง ซื้อเพิ่มอีก 4000 เครื่อง ซึ่งเผอิญไปตรงกับจังหวะการ Halving ของ Bitcoin ช่วงพฤษภาคมปี 2020 พอดีๆ

แต่ตลาดถูกปกคลุมด้วยความกลัวจากการแพร่ระบาดของ COVID เลยกดราคาของ RIOT ลงไปต่ำสุดถึง 0.53 เหรียญในเดือนมีนาคม

หลังจากนั้นราคาหุ้นก็กลับขึ้นมาพร้อมกับราคา Bitcoin และการขยายกำลังการขุดเหมืองของ RIOT

Bitcoin ขึ้นจากจุดต่ำสุดมาราวๆ 16-17 เท่าตัว แต่หุ้น RIOT วิ่งขึ้นมามากกว่า 140 เท่า !

เรียกได้ว่าเป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการขึ้นของ Bitcoin ที่ดันขึ้นมากกว่า Bitcoin ซะอีก

อนาคตของ RIOT

บอกตรงๆเลยว่าหุ้นตัวนี้ตอนนี้ผมว่าความน่าสนใจลดลงไปเยอะในระยะสั้น แต่ในระยะยาวอันนี้แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละท่านครับ 555

ถ้าคิดว่า Bitcoin จะไป 5 แสนเหรียญแบบที่ Cathie Wood พูด RIOT ก็น่าจะยังขึ้นได้อีก?

เพราะตอนนี้บริษัทเองยังไม่หยุดลงทุนซื้อเครื่องขุด Bitcoin อย่างต่อเนื่อง โดยมีกำลังขุด Bitcoin ประมาณนี้ครับ

ปี 2020 มีเครื่องขุดทั้งสิ้น 7043 เครื่อง กำลังการขุด 0.57 Exhash per second (Eh/s เป็นหน่วยที่เขาเอาไว้ใช้วัดกำลังการขุด Hashing Rate ครับ)

ปัจจุบันนี้ (เมษา 2021) มีเครื่องเพิ่มเป็น 13746 เครื่องแล้ว กำลังการขุดเพิ่มจาก 0.57 Eh/s เป็น 1.3 Eh/s

แต่ๆๆเป้าหมายของบริษัทในปีนี้คือการมีเครื่องขุดเพิ่มเป็น 39146 เครื่อง ซึ่งจะทยอยส่งมอบจาก Bitmain (บริษัท Supplier เครื่องขุด Bitcoin ระดับโลก)

ด้วยปริมาณเครื่องขุดระดับนี้จะทำให้ RIOT มีกำลังการขุดสูงถึง 4 Eh/s เลยทีเดียว

เท่านั้นยังไม่พอ ! ตอนนี้บริษัทกำลังอยู่ในระหว่างการเข้าซื้อกิจการเหมือง Bitcoin อีกที่หนึ่งชื่อ Whinstone ซึ่งเป็นธุรกิจ Data Center ที่มีการวางแท่นขุด Bitcoin ไว้ จุดเด่นคือต้นทุนในการขุดต่ำมาก และมีการให้บริการขุดเหมืองให้กับลูกค้าสถาบัน โดยแลกกับเงิน 80 ล้านเหรียญและหุ้นเพิ่มทุน RIOT 11.8 ล้านหุ้น

โดยพอรวมกันแล้วบริษัทเจ้าของเดิมของ Whinstone บริษัท Northern Data จะมีหุ้นใน RIOT 12.3%

ถ้าดีลสำเร็จ RIOT จะกลายเป็น Platform เหมือง Bitcoin ที่ใหญ่ที่สุดในตลาดหุ้น มีต้นทุนที่ดีมากๆ

มุม Valuation

ต้องถือว่า RIOT เป็นหนึ่งในหุ้นที่เล่นกับ Story และการเติบโตในอนาคตมากที่สุดตัวหนึ่ง และความยากที่สุดในการประเมินมูลค่าคือการประเมินราคา Bitcoin ในอนาคต เพราะ RIOT จะมีมูลค่าเท่าไรขึ้นอยู่กับปัจจัยดังต่อไปนี้

ปริมาณ Bitcoin ที่ขุดได้ อนาคตจะขุดได้น้อยลงเรื่อยๆจากการ Halving และต้องใช้กำลังขุดเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ราคา Bitcoin อาจเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นการดูแค่ Hashing capacity ก็อาจจะไม่ได้ช่วยให้ประเมินได้ 100%

การบริหารจัดการต้นทุนการขุดให้แข่งขันได้ตลอดเวลา คือต้องมีเครื่องขุดที่มีประสิทธิภาพตลอด และนี่อาจเป็นสาเหตุว่าทำไมเครื่องขุด Bitcoin ตัดค่าเสื่อมที่ 2 ปี เพราะมันล้าสมัยเร็วมากๆ

มาตรฐานบัญชีที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงตอนนี้ไม่มีมาตรฐานบัญชีอะไรมารองรับ Cryptocurrency เท่าที่ผมเข้าใจคือถ้าได้ Bitcoin มาต้อง Book ลงงบการเงิน At Cost และไม่สามารถปรับมูลค่าขึ้นได้แม้ Bitcoin ราคาขึ้น แต่ถ้าราคาลงมาต่ำกว่าต้นทุน ต้องมีการบันทึก Loss

อย่างไรก็ตามในไตรมาส 4 ปี 2020 ที่ผ่านมา RIOT ได้มีกำไรเรียบร้อยแล้วจากที่ขาดทุนมาตลอด รายได้จากการขุดเหมืองโตที่ 5 ล้านเหรียญโต 116% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา ในขณะที่ SG&A โตเพียง 14%

ในไตรมาส 4 บริษัทขุด Bitcoin ได้มา 303 BTC โตขึ้น 36% จากไตรมาส 3 ลองคิดเล่นๆ ไตรมาส 4 มีเครื่องขุด 7000 เครื่อง ถ้า ปี 2022 มีเครื่องขุด 39000 เครื่องตามเป้าที่บริษัทวางไว้ (300/7000)*39000*4 ไตรมาสแปลว่า RIOT มีโอกาสขุด Bitcoin ได้อย่างน้อย 6600 BTC ในปี 2022 เลยทีเดียว (อันนี้คิดแบบคร่าวๆนะครับ ใครสนใจไปคำนวณแบบละเอียดกันอีกที)

แล้ว Bitcoin ในปี 2022 ราคาเท่าไหร่ล่ะ?

• ขึ้น 2 เท่าจากปัจจุบัน 120k มูลค่า Bitcoin คือ 790 ล้านเหรียญ
• ขี้น 5 เท่าจากปัจจุบัน 300k มูลค่า Bitcoin คือ 1980 ล้านเหรียญ
• ขึ้น 8 เท่าจากปัจจุบัน 480k (ราคา ARK Invest พอดี) มูลค่า Bitcoin คือ 3100 ล้านเหรียญ

ทั้งหมดนี่คือโอกาสการทำรายได้ใน 1 ปีของ RIOT อย่างไรก็ตามรายได้นี่ต้องพูดในกรณีที่ RIOT ขาย Bitcoin ออกมาด้วยนะครับ ไม่งั้นก็จะเข้าไปอยุ่ใน Balance Sheet งบปี 2021 RIOT มี Bitcoin ในงบทั้งสิ้น 1078 BTC

ตอนนี้ RIOT มี Market Cap ที่ 3700 ล้านเหรียญ ถ้าทำได้ตามข้างบนจริงๆ หุๆ 2-5 ปีคืนทุนละฮะ แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นการลงทุนแล้วชีวิตมันคงไม่ได้สวยหรูขนาดนั้น

ถ้าคิดแบบเซฟๆล่ะ เอาเป็นว่าขุด Bitcoin ได้ที่อัตราปัจจุบันละกัน ราวๆ 180 BTC ต่อเดือนหรือ 2160 BTC ต่อปี (ใช้เรทการขุดเท่าๆกับเดือนมีนาคม 2021 และ Assume ว่า Bitcoin ขุดยากขึ้นต่อให้เพิ่มกำลังการผลิตไปก็ขุดได้เท่าเดิม) และราคา Bitcoin อยู่ที่เดิมที่ 60000 เหรียญ

เท่ากับว่า RIOT สามารถปั๊มรายได้ๆปีละ 129 ล้านเหรียญ หุ้น RIOT มี Market cap ที่ 3400 ล้านเหรียญ ราคานี้เป็น Forward Price/Sale ที่ 26 เท่า ซึ่งเทียบใกล้เคียง Forward Price/Sale ของหุ้นเทคโนโลยีชั้นนำเลย เช่น Snowflake, Shopify, Moderna, Crowdstrike, Crisper Therapeutics เลย

ในขณะที่ความแข็งแกร่งของ RIOT ในเชิง Business Model Innovation Market positioning หรือการอยู่ในอุตสาหกรรมที่เป็น Winner Take All หรือ Winner Take Most สู้หุ้นที่ผมเอามาเทียบไม่ได้เลย

มันก็เลยเป็นเรื่องยากมากๆที่จะเจาะความคิดของนักลงทุนว่าตกลงแล้วหุ้นตัวนี้มันถูกหรือแพงกันแน่ ในขณะที่ความเสี่ยงที่เห็นกันชัดๆมันมีอยู่ ปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้มีเยอะ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนของคนที่ขุด ซึ่งจะกระทบความยากง่ายในการได้ Bitcoin, ราคาของ Bitcoin, กฎหมายประเทศต่างๆ, ราคาเครื่องขุด บลาๆๆ

ความเสี่ยงของ RIOT

คู่แข่งที่เข้ามาขุดเหมือง ทองราคาขึ้น คนขุดทองก็ต้องมาขุดกันเยอะ โอกาสที่ RIOT จะขุด Bitcoin ได้น้อยกว่าที่คิดก็มีอยู่ นี่คือสาเหตุว่าทำไม RIOT ต้องเพิ่มกำลังการขุด Bitcoin อย่างต่อเนื่อง ยิ่งกำลังการขุดมาก ยิ่งเพิ่มโอกาสในการได้ Bitcoin ดูในภาพรวมภายในปีนี้ RIOT มีกำลังการขุด Bitcoin ราวๆ 3% ของทั้งโลก อยู่ที่ว่า RIOT จะเพี่มกำลังการขุดได้เร็วกว่าหรือคู่แข่งจะเพิ่มขึ้นมามากกว่า

จำนวน Bitcoin ที่ขุดได้จะลดลงแน่ๆ เพราะตอนนี้ทั่วโลกมี Supply Bitcoin เหลือเพียง 2.3 ล้าน BTC ซึ่งประเมินว่าต้องใช้เวลาถึง 120 ปีถึงจะหลุดออกมาหมด ดังนั้นถ้า RIOT ขุดได้ปีละ 1000 BTC กำลังการขุด 3% แปลว่าทั้งโลกต้องขุดได้ 33,000 BTC ถ้าตัวเลขนี้จริงแปลว่าไม่เกิน 70 ปี Bitcoin จะถูกขุดจนหมดซึ่งก็อาจจะช้ากว่าหรือเร็วกว่าเป็นไปได้ทั้งหมด

ราคา Bitcoin เองก็เป็นความเสี่ยงตัวใหญ่ ที่คนส่วนใหญ่น่าจะมองไม่ออก (รวมทั้งตัวผมเองด้วย) คิดๆดู RIOT มีความเหมือนพวกหุ้นคอมโม เหมือนกัน ตอนราคาสินค้าที่ตนเองผลิตเป็นขาขึ้นก็กำไรเละเทะ เมื่อไหร่เป็นขาลงก็จบกัน เป็นหุ้นประเภท Digital Commodity

นอกจากนั้นความเสี่ยงในเชิง Operation ของ RIOT คือ Bitcoin อาจมีการเปลี่ยน Hashing Algorithm จาก SHA-256 เป็นอย่างอื่น ซึ่งถ้าเกิดขึ้น RIOT ต้องเปลี่ยนเครื่องขุดใหม่ทั้งหมด ซึ่งอาจจะทำให้บริษัทต้องจ่ายเงินค่าเครื่องขุดสูงถึง 40-50 ล้านเหรียญ จะกระทบมากแค่ไหน อยู่ที่ราคา Bitcoin ตอนนั้นมากเท่าไหร่

สรุปแล้วคนที่ได้ประโยชน์จาก Trend การขึ้นของ Bitcoin ครั้งนี้อาจจะเป็นคนขายอุปกรณ์ขุดเหมืองอย่าง Bitmain ที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า Bitmain เคยจะเข้าตลาดหุ้นมาแล้วรอบนึง แต่ก็ไม่เข้า ก็ของขายดีขนาดนี้ทำไมต้องเข้าตลาดมาแบ่งกำไรให้คนอื่นล่ะครับ? จริงไหม

ส่วน Valuation ด้านบนผมบอกเลยว่าถ้าอยากจะลงทุนจริงๆต้องประเมินใหม่ให้ละเอียดกว่านี้มากๆครับ  ที่มาเขียนบทความนี้เพราะความชอบส่วนตัวล้วนๆ ใครมีแนวคิดยังไงคุยกันได้นะครับ ผมเองยังใหม่กับเรื่อง Blockchain มากๆครับ