Last Updated on 26/10/2021
หนึ่งในหุ้นที่น่าจะโดนหนักที่สุดในวิกฤตรอบนี้คือร้านขายเฟอร์นิเจอร์นี่แหละ นอกจากคนจะไม่ค่อยไปดูของที่โชว์รูมแล้ว ยอดขายที่เป็นโครงการในส่วนของคอนโดก็น่าจะลดลงด้วย แถมยังโดนปิดเมืองเป็นระลอกๆ แม้ไม่เคยเป็นศูนย์กลางของการระบาด แต่โดนปิดตลอด ด้วยความที่ไม่ถูกนับเป็นสินค้าจำเป็น
พอจะส่งออกๆไปต่างประเทศก็โดนวิกฤตทำให้ส่งออกไปได้ไม่มากเท่าที่ควร สรุปง่ายๆคือแผนที่วางไว้พังไม่เป็นท่า
หุ้น IPO เข้ามา 22 บาท ลงรวดเดียวไป Bottom ที่ 6.60 บาท คนถืออยู่น่าจะใจหายพอสมควร
ILM คือหนึ่งหุ้นที่โดนกระทบค่อนข้างหนัก เอาจริงๆคือเจอปัญหาตลอดตั้งแต่เข้า IPO มา จนมาถึงจุดนี้ผมว่ามันน่าจะใกล้ถึงเวลามากแล้วล่ะที่ ILM จะกลับมาเติบโตอีกครั้ง หลังจากการเปิดเมือง
ถือเป็นหุ้น Theme เปิดตัวที่น่าสนใจอีกตัวนอกจากพวกท่องเที่ยว มาดูกันครับว่าระหว่างที่เข้าตลาดมา ILM ทำอะไรไปแล้วบ้าง? ต่อไปนี้จะเป็นฟ้าหลังฝนจริงๆหรือไม่?
หุ้น ILM น่าสนใจยังไง?
- ราคาหุ้นที่ว่าค่อนข้างถูก เมื่อเทียบธุรกิจที่ถือว่าเป็นหุ้นค้าปลีก และบริษัทก็ไม่ได้อยู่นิ่งๆขยายตลอด ถ้ากลับไปรายได้เท่าเมื่อปี 2562 ได้ Forward P/E เพียง 15 เท่า
- โมเดลธุรกิจที่ขยายง่าย ใช้เงินลงทุนน้อย ไม่ค่อยมี Maintenance Capex ยาวๆไปน่าจะเป็นเครื่องจักรผลิตเงินสดได้ดี
- ทีมบริหารค่อนข้าง Active มากๆออก Line สินค้าใหม่ๆตลอด ของเดิมก็มีการพัฒนา ปรับปรุง
- รายได้การขายออนไลน์เริ่มเพิ่มมาอย่างมีนัยยะ คาดว่าปีนี้จะโตจากปีที่แล้ว 70% และน่าจะมีสัดส่วนจากรายได้รวม 10-15%
- ราคาไม้ Particle ขึ้นราคา Index เพิ่งขึ้นราคาตามได้น่าจะช่วยให้อัตราการทำกำไรดีขึ้น
- ปิดแคมป์คนงานไปงาน Project หลายๆที่เลย Delay ไป แต่เดี๋ยวพอเปิดเมืองยอดก็น่าจะกลับมาเอง
- การควบคุมต้นทุนน่าจะยัง Maintain แบบนี้ในระยะสั้น ดังนั้นถ้ายอดขายกลับไปเท่าเดิม กำไรของ ILM น่าจะดีขึ้น (Assume ที่เหลือเหมือนเดิม)
- อยากได้ธุรกิจบุกต่างประเทศ? ILM จัดให้เพราะมีธุรกิจ Franchise เฟอร์นิเจอร์ในต่างประเทศถึง 8 ประเทศแล้ว และมีธุรกิจรับจ้างผลิต OEM ส่งออก
หุ้น ILM ทำอะไร?
จริงๆน่าจะไม่ต้องอธิบายมาก เพราะคิดว่าหลายๆคนก็รู้จัก Index Living Mall อยู่แล้วว่าเป็นร้านขายเฟอร์นิเจอร์ แต่ในรายละเอียดจริงๆต้องบอกว่ามีธุรกิจมากกว่านั้นครับ
ปัจจุบัน ILM มีสาขาของ Index Living Mall อยู่ทั้งหมด 31 สาขา เป็นแบบในห้างอีก 3 สาขา นอกจาก Index ยังมีแบรนด์ร้านเฟอร์นิเจอร์อยู่ภายใต้บริษัทหลายแบรนด์เช่น
Winner เป็น Furniture ราคาถูกหน่อยเน้นตลาด Mass มี 1 สาขาที่ราชบุรี
Trend Design ขายของสไตล์ Modern Italian ร้านอยู่ใน Index Living Mall มี 6 สาขาอยุ่ใน Index Living Mall
Momentous ขายเฟอร์นิเจอร์ American Luxury อยู่ที่พารากอน
BoConcept ร้านเฟอร์นิเจอร์ Denmark อยู่พารากอนเช่นกัน
และอีกหลายๆแบรนด์เช่น PowerOne ขายเครื่องใช้ไฟฟ้า Logica ออฟฟิศเฟอร์นิเจอร์ Younique เฟอร์สั่งทำตัดตามขนาด
นอกจากสาขาในไทยก็มีสาขาแฟรนไชส์ต่างประเทศอีก 7 ประเทศ 14 สาขา คือ
- ปากีสถาน 3 สาขา
- เมียนมาร์ 3 สาขา
- เวียดนาม 3 สาขา
- เนปาล 2 สาขา
- ลาว 1 สาขา
- มัลดีฟ 1 สาขา
- กัมพูชา 1 สาขา
ธุรกิจหลักของบริษัทคือเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งเป็นธุรกิจที่เป็นเรื่องของทำเล บริษัทเลยขยายไปธุรกิจ Community Mallด้วยภายใต้แบรนด์ The Walk 3 สาขา และ Little Walk 2 สาขา
สัดส่วนรายได้ของบริษัทประมาณนี้ครับ
- เฟอร์นิเจอร์ 94%
- ค่าเช่าพื้นที่ 6%
ถ้าแยกเฉพาะธุรกิจเฟอร์นิเจอร์จะเป็น
- ค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ 76.3%
- งานโปรเจค 8.6%
- ส่งออกและแฟรนไชส์ 4.1%
- ดีลเลอร์ 1%
- ออนไลน์ 10%
จะเห็นว่าวิกฤตครั้งนี้ Index ถือว่าถูกกระทบมากพอสมควร
- ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ที่คนส่วนใหญ่จะซื้อก็คงต้องเข้าไปดูที่สาขาก่อน แล้วสาขาโดนปิด คนไม่กล้าเข้าไป
- ธุรกิจให้เช่าพื้นที่ ก็กระทบเพราะคนไม่ออกไปนอกบ้าน คงมีผู้เช่าเลิกเช่า และขึ้นค่าเช่าไม่ได้ ถึงตอนนี้คิดว่าผลกระทบก็ยังอยู่
- ธุรกิจส่งออกของลูกค้าที่ก็คงมีปัญหาเช่นกัน
- งานโปรเจคก็ลดน้อยลงตามการลดลงของการขึ้นโครงการใหม่
- มีอยู่อย่างเดียวที่เห็นเป็นเชิงบวกหน่อยก็คือยอดขายออนไลน์ แต่ก็ไม่ได้มีนัยยะมาก เพียง 10%
ผลกระทบมากแค่ไหน? มาดูกันที่งบการเงินครับ
งบการเงินของหุ้น ILM
ที่ชัดเจนที่สุดคือรายได้ของ ILM ลดลงอย่างเห็นได้ชัด จนถึงปัจจุบันยังไม่ฟื้นจากวิกฤต
รายได้
- 2018 – 9174 ลบ.
- 2019 9236 ลบ.
- 2020 7657 ลบ. ลบไป 17%
กำไร
- 2018 – 542 ลบ.
- 2019 – 596 ลบ.
- 2020 – 421 ลบ. ลบไป 29%
ติดลบไปในปี 2020 และในปี 2021 ก็ยังไม่ได้โตมากมาย รายได้อยู่ในระดับไตรมาสละ 2 พันล้านลดลงจาก 2100 ล้านที่ทำไว้ในไตรมาส 1 เล็กน้อย กำไรลดลงจาก 145 ที่ทำได้มา 3 ไตรมาส ลงมาเหลือ 101 ลบ.
มีความดีให้เห็นเล็กน้อยคืออัตราการทำกำไรเริ่มมีการกระโดดให้เห็น แปลว่าการบริหารจัดการต้นทุน และ Product Mix ที่บริษัทพยายามปรับปรุงน่าจะเริ่มเห็นผลดีบ้าง ในมุม SG&A เองก็เห็นพัฒนาการอย่างมีนัยยะจาก 38% ในไตรมาส 3 ปี 2020 เหลือ 33% ในไตรมาส 1 และ 35.5% ในไตรมาส 2 ปี 2021
และเนื่องจากไตรมาส 3 เรายังมีการปิดเมืองกันอยู่ ดังนั้นไม่ต้องคาดหวังงบไตรมาส 3 ครับ น่าจะไม่สวย แต่มองอีกมุมน่าจะเป็นจุดต่ำ ไม่สุดก็เกือบที่สุดของปี 2021 แล้ว หลังจากนี้ถ้าไม่มีอะไรอีกก็น่าจะเริ่มต้นการฟื้นตัวได้
การเติบโตของหุ้น ILM
หลักๆแล้วการเติบโตของ ILM น่าจะมาจาก 5-6 ประเด็นต่อไปนี้
1. การกลับมาของกำลังซื้อผู้บริโภคหลังวิกฤต ซึ่งส่งผลบวกกับธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ที่พื้นที่เช่า (เป็นกำลังซื้อของบ้านเก่าราวๆ 50% และบ้านใหม่อีก 50%)
2. การกลับมาของงานโครงการ ทั้งบ้านและคอนโด ผมเชื่อว่าธนาคารไทยน่าจะรอจังหวะนี้อยู่เหมือนกันที่จะออกมาอนุมัติสินเชื่อรัวๆ ถ้ากำลังซื้อกลับมา
3. การขายออนไลน์ที่มี Momentum ที่ดี บริษัทถึงกับออก Line สินค้าใหม่เพื่อตลาดนี้โดยเฉพาะ คือแบรนด์ Furinbox ขายแบบใส่ในกล่องให้ลูกค้าไปประกอบเอง ได้ผลแค่ไหนยังบอกไม่ได้ แต่ผมชอบตรงที่บริษัท Pro-Active กับโอกาสที่เห็น ในช่วงเวลาวิกฤต
4. การลดต้นทุนที่คาดว่ายังน่าจะ Maintain ได้ในระดับปัจจุบัน ถ้าทำได้อัตราการทำกำไรน่าจะดีขึ้นมากตอนกำลังซื้อกลับมา
5. การเติบโตต่างประเทศ บริษัทพยายามทำมาตั้งแต่เข้า IPO นี่ก็เกือบๆ 3 ปีแล้ว คิดว่าน่าจะลองผิดถูกไปแล้วพอสมควร ปี 2022 น่าจะเริ่มเห็นข่าวดีบ้าง?
6. บริษัทเริ่มใช้ประโยชน์จากทำเลของตนเองเช่น การให้ COM7 เข้ามาช่วยบริหาร PowerOne การขายสินค้าออนไลน์ที่ใช้สาขาเดิมเป็นที่สต๊อกของ การเป็น Dealer ให้กับสินค้าแต่งบ้านแบรนด์อื่นๆ เช่นขายที่นอนที่ขายได้ดีขึ้น ตรงนี้จะเห็นผลก็คง 2-3 ปี แต่ถ้าทำได้ดีก็เป็นกำไรฟรีๆที่ไม่ต้องลงทุน
เป้าเติบโตบริษัท SSSG ตั้งเป้าไว้ Single Digit ถ้าตลาดกลับมาเปิดเมืองเต็มที่ ผมว่าไม่ Single Digit หรอกครับน่าจะมากกว่านั้นเยอะ
ความเสี่ยง
การเติบโตของ ILM อยู่ที่การเปิดเมือง ความเสี่ยงก็อยู่ในทางตรงกันข้ามครับคือการปิดเมือง ถ้าเกิดกลับมาปิดอีก ระยะสั้นหุ้นน่าจะลงมาใหม่
เปิดเมืองแล้วยอดขายออนไลน์จะตกลงไหม? มุมนึงผมว่ามันคนละตลาดกับที่ Index ขายออฟไลน์ ดังนั้นไม่น่าจะตกลง บริษัทก็บอกเองว่าแม้เปิดเมืองแต่ยอดขายออนไลน์ก็ยังโต ก็คงไม่น่าเป็นห่วงมากนัก
อีกมุมหนึ่งคือกลยุทธ์การเติบโตของ ILM เอาจริงๆก็ยังดูไม่ Solid มาก ตั้งแต่ IPO เข้ามาผลงานไม่เข้าตาเลยซักปี หุ้น IPO เข้ามา 22 บาทตอนนี้ยังต่ำของที่ 18 บาท
ยากที่สุดคือการขยายไปต่างประเทศ เอาจริงๆอาจจะไม่ต้องเอามาคิดเลยก็ได้ เพราะบริษัทไทยที่ไปตปท.แล้วรอดมีน้อยยิ่งกว่าน้อย
สรุปแล้วหุ้น ILM ดีไหม?
หุ้นราคาถูกกว่าเพื่อนๆในอุตสาหกรรมเดียวกัน คือค้าปลีก ในขณะที่ธุรกิจไม่ได้ซับซ้อนอะไรมาก บริษัทดูแล้วน่าจะชะลอการเปิดสาขาใหม่ๆใน 1-2 ปีนี้เพื่อรอดูกำลังซื้อ ทำให้ต้นทุนไม่บวม ถ้ารายได้กลับมา กำไร 600 ล้าน++ ใกล้เคียงปี 2019 น่าจะมีลุ้น
ถ้าทำได้ตอนนี้บริษัท Market Cap 9000 ลบ. Forward P/E ประมาณ 15 เท่า ไม่ถูกไม่แพง แต่ต้องไปลุ้นกำลังซื้อตลาด การทำออนไลน์ของบริษัท และการเติบโตของแฟรนไชส์ต่างประเทศ ตัวบริษัทเองค่อนข้างสถานะทางการเงินดี
ช่องทางติดตาม
ชอบบทความวิเคราะห์หุ้นรายตัวแบบนี้สามารถติดตามผ่าน FB Page: เทรนด์ลงทุน และ LINE@Trendlongtun ครับ
COMMENTS