Last Updated on 20/01/2022
PSH เหมือนหุ้นของทีมฟุตบอลทีมหนึ่งที่กำลังอยู่ในวังวนปัญหาแก้ไม่ตก มีการเปลี่ยนนักเตะก็แล้ว เปลี่ยนผู้จัดการทีมก็แล้ว ยังไม่สามารถฟื้นตัวกลับมาได้ หนำซ้ำไปเจอกับสถานการณ์วิกฤตซึ่งทำให้กำลังซื้อตก แถมกำลังขยายรุกธุรกิจใหม่อย่างโรงพยาบาลมีค่าใช้จ่ายมหาศาล บอกเลยว่าปัญหาแบบนี้ไม่ได้แก้ไขได้ง่ายๆ
แต่ดูเผินๆเหมือนน่าจะ Bottom ไปแล้วระดับนึง ราคาหุ้นถูก แต่การเติบโตโคตรไม่ชัดเจนเลย แถมผลงานในอดีตใน 2-3 ปีเต็มไปด้วยคำว่าพลาดเป้า และไม่โต
แต่ล่าสุด PSH มีการแต่งตั้ง Co-CEO คือคุณอุเทน ผู้บริหารเก่าของ Fraser Property และ Ticon มาคุมตัวบริษัทแม่พฤกษา โฮลดิ้ง ตลาดอสังหากำลังมีแนวโน้มที่ดีขึ้น โรงพยาบาลก็เปิดไปแล้วค่าใช้จ่ายเข้ามาให้เห็นแล้ว
บริษัทราคาไม่แพง ปันผลดี สถานะการเงินแข็งแกร่ง ครอบครัวคุณทองมายังถือหุ้น 70% มาดูกันว่าณ.วันนี้ PSH ใกล้แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์กันหรือยัง?
ธุรกิจของ PSH
ตอน PSH เข้าตลาดมาใหม่ๆผมจำได้ว่าเป็นหุ้นอสังหาฯที่เน้นทำแนวราบ ทาวน์เฮ้าส์ ราคาจับต้องได้สำหรับตลาดกลาง-ล่าง แต่ตัดภาพมาปัจจุบันตอนนี้ PSH ไม่ได้เป็นบริษัทอสังหาแนวราบแต่กลายเป็นบริษัททำคอนโดไปแล้ว
Backlog ณ.ปัจจุบันของ PSH อยู่ที่ 22,958 ลบ. เป็นคอนโด 19,367 ลบ. หรือ 84% …. จะเรียกว่าเป็น LPN ตัวใหญ่ก็ได้อยู่นะ ส่วนที่เหลืออีก 11% เป็นทาวน์เฮ้าส์ และอีก 5% เป็นบ้านเดี่ยว
พอเห็นแบบนี้พอเดาได้เลยว่า 2 ปีที่ผ่านมา PSH รับไปเต็มๆ Teen มากเพราะวิกฤตครั้งนี้มากระทบคอนโดเต็มๆ นอกจากนั้น PSH ยังทำ Segment กลาง-ล่างด้วยยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ เพราะ 2 ปีที่ผ่านมา Segment ที่โตได้คือกลาง-บน และระดับบน ที่ส่วนใหญ่คือลูกค้าเป็นมนุษย์เงินเดือน และผู้บริหารบริษัทที่มีรายได้ชัดเจน
ด้วยเหตุนี้เลยทำให้ทั้งยอดการเปิดตัวโครงการ และยอด Presales ของบริษัทลดลง ส่งผลให้ Backlog น้อยลงตามไปด้วย และเมื่อ Backlog ลดลง การที่รายได้จะโตนั้นเป็นไปไม่ได้เลย
ธุรกิจอสังหาของ PSH ผมว่ามีปัญหาภายในพอสมควร ก่อนหน้านี้ PSH อยากยกระดับแบรน์เลยเปลี่ยน CEO เป็นคุณสุพัตราซึ่งเป็นสาย Marketing ตอนนี้เปลี่ยนเป็นคุณปิยะ ซึ่งเป็นวิศวกรเก่าของพฤกษา ทำงานกับพฤกษามา 27 ปี นับว่ารู้จักพฤกษาดีกว่าใครๆ นอกจากนั้นยังแต่งตั้งคุณอุเทน มาเป็น Co-CEO ร่วมกับคุณทองมา เพื่อมาดูแลในกลยุทธ์ภาพรวมขององค์กร
อีกธุรกิจหนึ่งที่พึ่งเริ่มต้นเอากลางปี 2564 คือธุรกิจโรงพยาบาล ชื่อโรงพยาบาลวิมุต ขนาด 250 เตียง ลงทุนไป 4,000 กว่าล้าน โดนทั้งค่าเสื่อมและค่าใช้จ่ายหมอเพิ่มเติมถ้าเปิดเต็มอัตรา ทำให้แทนที่จะกลายเป็นตัวผลักดัน อาจจะกลายเป็นตัวฉุดในระยะสั้น
การเปลี่ยนแปลงที่เยอะขนาดนี้ผมว่าต้องใช้เวลาในการเปลี่ยนผ่านกว่าจะเห็นผลงานของ 2-3 ปีเป็นอย่างช้า
อย่างไรก็ตามผมว่าในระยะสั้น PSH มีจุดที่น่าสนใจบางอย่างอยู่
สิ่งที่น่าสนใจในหุ้น PSH
รายได้กำไรน่าจะ Bottom Out ในปีนี้ ในขณะที่หุ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง สถานะทางการเงินดี และหนี้น้อย ด้วยสถานะแบบนี้คือรอเวลาว่าจะเอาเงินไปทำอะไร
การมาของคุณอุเทนซึ่งเป็นสายกลยุทธ์อาจจะเป็นคนปลดล๊อคจุดนี้ของ PSH คือเอาเงินที่มาและความแข็งแกร่งไปทำให้มันเกิดการเติบโต ซึ่งตอนนี้ผมเดาว่าน่าจะเป็นธุรกิจอสังหา แค่ไม่ใช่ Developer ส่วนธุรกิจรพ.ก็รู้แผนกันอยู่แล้ว ดังนั้นน่าจะมีลุ้นธุรกิจอื่นๆ …. ตรงนี้รวมไปถึงการทำ M&A ด้วย เหมือนที่ซื้อโรงพยาบาลเทพธารินทร์ 51%
งบการเงินของ PSH ต่อให้หลับตาก็รู้ว่าปีหน้าน่าจะโตได้ EPS น่าจะโตได้ไม่ต่ำกว่า 30% เพราะปี 2564 แย่มาก อย่างไรก็ตามหุ้นยังมีปันผลค้ำอยู่แถวๆ 6%++
ถ้าดู Metric ต่างๆของธุรกิจ PSH เช่นมุลค่าการเปิดตัวโครงการ Backlog Presale ปีนี้น่าจะตกต่ำอย่างมาก ปีหน้าไม่ต้องบู๊มากก็โตได้
แต่ในความเป็นจริงคือบริษัทน่าจะต้องเตรียมบู๊สุดๆ บริษัทอื่นๆเริ่มประกาศมูลค่าการเปิดตัวโครงการกันแล้ว PSH สถานะการเงินดี ผมว่าเป็นจังหวะที่บริษัทต้องลุย …. ไหนจะมี CEO ใหม่คุณอุเทนเข้ามาด้วย ผมว่าโอกาสสูงมากๆที่ PSH จะเข้าโหมดลุยจากที่ 2 ปีที่ผ่านมาอยู่ในโหมดเจียมเนื้อเจียมตัวมาตลอด
ทั้งนี้ทั้งนั้นจะลุยได้สถานการณ์ภายนอกก็ต้องเอื้อด้วย ….
อสังหาปี 2565 ถ้าปัญหาโรคระบาดจบได้ ผมว่า PSH จะเป็นหนึ่งในหุ้นที่ได้ประโยชน์ที่สุดเพราะ Backlog มีสัดส่วนของคอนโดอยู่เยอะมาก ไหนจะมีเรื่องที่ธปท.ปลดล๊อค LTV กู้เต็ม 100% ได้ถึงปี 2565 คุณปิยะบอกว่าน่าจะทำให้กำลังซื้อลูกค้ากลับคืนมาประมาณ 20%
ถ้ารถยังติดระเบิดขนาดนี้ คอนโดยังไงก็ยังมีความจำเป็น ผมไม่เชื่อว่าราคาคอนโดจะไม่ขึ้นในระยะยาว
ธนาคารกล้ากลับมาปล่อยสินเชื่ออีกครั้งหลังความไม่แน่นอนผ่านไป และราคาอสังหาริมทรัพย์กลับเข้าสู่โหมดการเติบโตอีกครั้ง
รัฐบาลกำลังเข้าสู่โหมดการเลือกตั้งในปี 2565 ดังนั้นน่าจะมีนโยบายประชานิยมต่างๆเข้ามา ทำให้ภาค Domestic กลับมาคึกคักชั่วคราว
นักลงทุนต่างชาติที่น่าจะเริ่มกลับเข้ามาไทยได้รวมถึงนักลงทุนและนักท่องเที่ยวจีน หลัง Winter Olympic ผมว่าสถานการณ์มันจะกลับข้างกันจากปี 2563-2564
ระยะสั้นรายได้ในไตรมาส 4 PSH น่าจะดีกว่า 4 ไตรมาสที่ผ่านมาทั้งหมด จากการโอนคอนโด 5 โครงการ
สำหรับโรงพยาบาลวิมุต ผมลองเปรียบเทียบดู 250 เตียงนี่เทียบๆกันแล้ว Scale ใหญ่กว่า EKH ที่ 140 เตียง น้อยกว่า World Medical Center ราวๆ 25% ที่ 324 เตียง และเป็นประมาณเกือบๆครึ่งหนึ่งของ BH ที่ 580 เตียง ถ้าบริหารดีๆ เปิดเต็มน่าจะมีมูลค่าอย่างน้อย 6,000-8,000 ลบ. หรือแถวๆ 20% ของ Market Cap ของ PSH ณ.ตอนนี้
PSH ยังมีแผนเปิดรพ.เพิ่มเติม และศูนย์ Health care ตามโครงการบ้านของบริษัทเป็นการ Synergy จากรพ.วิมุต ฟังดูดีแต่ที่ผ่านมาผมเห็นรพ.ทำศูนย์ Health care กันเยอะพอสมควร ยังไม่เห็นรายไหนสำเร็จจริงๆจังๆเลยซักราย
ที่ผ่านมา PSH มีการลดคนจาก 3,500 คนลงไปเหลือ 1,800 คน องค์กรตอนนี้มีค่าใช้จ่ายน้อยลงมากๆ ดูจากค่าใช้จ่ายบริหารจากไตรมาสละ 900-1000 ลบ. ลดลงมาเหลือ 500-600 ลบ. ดังนั้นถ้า PSH กลับมาโตได้ค่าใช้จ่ายที่น้อยลงน่าจะช่วยให้อัตรากำไรดีขึ้นกว่าเดิม
ความเสี่ยงของ PSH
การเปลี่ยนแปลงมากมายขนาดนี้ ผมไม่แน่ใจจริงๆว่าผู้บริหารจะบริหารจัดการได้ มันเป็นงานยากระดับ Rank S เลยทีเดียว พนักงานในองค์กรก็ลดลงเยอะ Morale ภายในอาจจะไม่ค่อยดี โชคดีหน่อยตรงที่ PSH หนี้ไม่ได้เยอะมาก และบริษัทค่อนข้างแข็งแกร่ง 2-3 ปียังเอาตัวรอดได้สบายมาก
ตลาดอสังหาฯ อาจจะต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว โดยเฉพาะตลาดกลาง-ล่าง เทียบกับตัวอื่นๆ ดังนั้นถ้าอยากเล่นอสังหาฯอาจมีตัวอื่นที่ดีกว่า?
การทำ M&A อาจไม่สวยหรูอย่างที่คิด ที่ผ่านมาเห็น PSH ซื้อโรงพยาบาลเทพธารินทร์ น่าจะต้องเอามา Renovate ก็เป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มอีก
สรุปคือในมุมของผลประกอบการบอกได้ว่า PSH น่าจะถึงจุดต่ำสุดแล้ว แต่การเติบโตในอนาคตยังไม่ชัดเจน รวมถึงหลายๆธุรกิจยังเป็นธุรกิจที่เพิ่งเริ่มใหม่ รายได้น้อย กำไรไม่มี มีแต่ค่าใช้จ่าย PSH มีข้อดีคือสถานะการเงินแข็งแกร่ง และน่าจะเป็นตัวพร้อมที่สุดตัวนึงที่จะโต แต่ถ้ามีการเติบโตแบบดุดันจริง โอกาสที่จะโตแบบดีๆมีกำไรก็ดูเหมือนต้องใช้เวลาซัก 2-3 ปี ดังนั้นถ้าจะเล่นตัวนี้อาจจะต้องรอได้ประมาณนึงครับ
สิ่งที่ผมจะติดตามมากๆคือยอดเปิดตัวโครงการและ Presales ของ PSH เลยครับ เพราะเอาจริงๆถ้ายอดขายอสังหากลับมาได้ดี จะช่วยลดผลกระทบของขาดทุนจากโครงการใหม่ๆได้มากพอสมควร และจะช่วยเรื่อง Sentiment ของนักลงทุนในระยะสั้นด้วยเพราะที่ผ่านมามันแย่มาก แค่กลับมาแย่ธรรมดา หรือ So-So ไม่แย่ก็อาจจะ Drive ราคาหุ้นได้แล้ว
ชอบบทความวิเคราะห์หุ้นรายตัวแบบนี้สามารถติดตามผ่าน FB Page: เทรนด์ลงทุน และ LINE@Trendlongtun ครับ
COMMENTS